รีวิวก่อนเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16ทีม สุดท้าย
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16ทีม ศึกฟุตบอลโลกเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนับจากนี้ถึงรอบชิงชนะเลิศ จะแบ่งทีมที่เข้ารอบจากกลุ่ม A-D เป็นทีมสายบน และ E-H เป็นทีมสายล่าง โดยการไขว้ประกบคู่ ใครจะต้องพบกับใครและทีมไหนมีโอกาสเข้าสู่รอบถัดไป นับจากนี้เราจะมารีวิวกัน
- เนเธอร์แลนด์ พบกับ สหรัฐอเมริกา (3 ธค., 22.00 น.)
เกมเปิดหัวรอบ 16 ทีมสุดท้าย ไม่ใช่เกมคู่ใหญ่ โดยทางฝั่งทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A แบบมีจุดอ่อนให้เห็น คือ ไม่มีกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา เดิมทีเหมือนจะต้องเตรียมใจกลับบ้านเร็ว แต่ในเกมสุดท้ายพวกเขาคว้าชัยเหนือ อิหร่าน ทำให้ปาดเข้าป้ายในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม B อย่างไรเสียหากเทียบปอนด์ต่อปอนด์ อัศวินสีส้มดูเหนือกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นหากไม่พลาดเองพวกเขาจะผ่านได้แบบไม่มีปัญหา
- อาร์เจนติน่า พบกับ ออสเตรเลีย (4 ธค., 02.00 น.)
ส่วนทีมชาติ อาร์เจนติน่า เปิดหัวได้น่าผิดหวังสุดๆด้วยการพ่ายแบบช็อคโลกต่อ ซาอุดิอาระเบีย แต่ใน 2 เกมที่เหลือ ทัพฟ้าขาวกลับมาฉายฟอร์มอย่างที่ควรจะเป็น กระทั่งสามารถเข้าสู่รอบต่อไปด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม C ได้สำเร็จ ซึ่งต้องมาชนกับ ทีมชาติ ออสเตรเลีย ที่มาเล่นฟุตบอลโลกหนนี้ด้วยการเพลย์ออฟชนะ เปรู แล้วสามารถโชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่องด้วยการคว้าชัย 2 เกม จาก เดนมาร์ก และ ตูนิเซีย ฉะนั้นนี้จึงเป็นขนมหวานกรอบสำหรับการเข้ารอบต่อไปของทัพฟ้าขาว หากไม่ร้อนร้นไปเองเหมือนนัดเจอ ซาอุดิอาระเบีย
- ฝรั่งเศส พบกับ โปแลนด์ (4 ธค., 22.00 น.)
สำหรับ ฝรั่งเศส ลงป้องกันแชมป์ในครั้งนี้แบบไม่ฟลูทีมสักเท่าไร แต่รูปแบบการเล่นและกลุ่มนักเตะเป็นโครงสร้างเดิมอยู่ ทำให้ผลงานยังอยู่ในระดับสูง แม้นัดส่งท้ายในรอบแบ่งกลุ่มจะพ่ายต่อ ตูนิเซีย กระนั้นอาจเข้าใจได้ว่าพวกเข้าผ่อนคันเร่งเพื่อเตรียมตัวสำหรับรอบถัดไป ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติ โปแลนด์ นานมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยในรอบบ่งกลุ่ม พวกเขาปาดหน้าเข้าป้ายในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม C แบบวินาทีสุดท้ายของเกม จากผลต่อประตูได้เสียที่ดีกว่า เม็กซิโก 1 ลูก อย่างไรก็ดี ตราไก่ ถือเป็นตัวเต็งและมีศักยภาพสูงกว่ามาก ทำให้เกมคู่นี้น่าจะเป็นแชมป์เก่าที่ผ่านเข้ารอบไปได้
- อังกฤษ พบกับ เซเนกัล (5 ธค., 02.00 น.)
ทีม อังกฤษ ในฐานะอันดับ 4 จากฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มด้วยความโหดเหี้ยมใส่ อิหร่าน แต่ในนัดที่ 2 และ 3 มันก็เริ่มเห็นถึงฟอร์มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้จะเข้ารอบในฐานะแชมป์ B ก็ตามที ส่วนทางฝั่งทีมชาติ เซเนกัล การขาด ซาดิโอ มาเน่ ไป ถูกมองว่าจะเป็นผลให้ทีมต้องกลับบ้านเร็ว แต่สุดท้ายพวกเขาพิสูจน์แล้วว่าทีมเวิร์คที่ดีพอ สามารถพาทีมเข้ารอบต่อไปได้ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม สิงโตคำรามหมายมั่นว่าจะไปให้ไกลที่สุด แต่การต้องเจอแชมป์จากทวีปแอฟริการ ถือเป็นงานที่หนักพอสมควร กระนั้นยังเชื่อว่า เซาท์เกต จะพาทีมเอาชนะได้
- ญี่ปุ่น พบกับ โครเอเชีย (5 ธค., 22.00 น.)
ญี่ปุ่น ถูกมองว่าอยู่ในกลุ่มออฟเดธและโอกาสสูงที่จะต้องตกรอบ แต่สุดท้ายพวกเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการโค่น 2 ชาติยักษ์ใหญ่อย่าง เยอรมัน และ สเปน ด้วยสกอร์ 2-1 เหมือนกัน พร้อมกับเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม E ขณะที่ทีมชาติ โครเอเชีย ความแข็งแกร่งลดลงไปเพราะตัวผู้เล่นแกนหลักมีอายุมากขึ้น แต่ความเก๋าก็ยังช่วยให้พวกเขาเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม F สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม ศักยภาพเหมือนจะพอๆกันและมีโอกาสเข้ารอบทั้งคู่ ฉะนั้นเกมคู่นี้ต้องดูหน้างานว่า ขุนพลซามูไรจะยังมีแรงฮึดต่อเนื่องหรือไม่ เพราะถ้าหากยังสู้สุดใจเหมือนเดิม ตราหมารุกคงยากที่จะต้านอยู่
- บราซิล พบกับ เกาหลีใต้ (6 ธค., 02.00 น.)
ทีม บราซิล จัดเป็นเต็งลำดับต้นๆของฟุตบอลโลกครั้งนี้ แล้วสามารถโชว์ฟอร์มได้สมราคา แต่ในนัดสุดท้ายดันพ่ายทีมที่ตกรอบไปแล้วอย่าง แคมอรูน เสียอย่างนั้น ขณะที่ตอนนี้ดูจะมีปัญหาในเรื่องขุมกำลัง เพราะมีตัวผู้เล่นบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไปอีก 2 ราย
ส่วนทางฝั่งทีมชาติ เกาหลีใต้ 2เกมแรกทำท่าจะต้องกลับบ้าน แต่ในนัดสุดท้ายพวกเขามายิงประตูแซง 2-1 ใส่ โปรตุเกส พร้อมกับเข้ารอบไปแบบลุ้นระทึก อย่างไรเสียด้วยศักยภาพที่ล้นเหลือของแซมบ้า ทำให้เชื่อว่าพวกเขาจะหักด่านโสมเข้ารอบต่อไปได้
- โมร็อกโก พบกับ สเปน (6 ธค., 22.00 น.)
โมร็อกโก ถือว่าสร้างผลงานเซอร์ไพรส์พอสมควร โดยเฉพาะการยัดเยียดความปราชัยใส่ เบลเยียม ที่เป็นเต็งของกลุ่ม พร้อมกับผ่านเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม F
ส่วนทีมชาติ สเปน เปิดหัวแบบสวยหรูด้วยการถล่ม คอสตาริกา แต่ในนัดที่ 3 นั้น ไม่แน่ใจว่าต้องการหลบ โครเอเชีย หรือไม่ เพราะพวกเขาพลิกพ่ายต่อ ญี่ปุ่น ไปเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ดีในเกมที่จะพบกับต่อไปนี้ กระทิงดุคงเอาจริงและเอาจังเพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป
- โปรตุเกส พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ (7 ธค., 02.00 น.)
ทีมชาติ โปรตุเกส คว้าชัย 2 เกมแรก ทำให้เป็นทีมแรกของกลุ่ม H ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม แม้ในนัดสุดท้ายจะเสียหน้าเล็กๆที่พ่ายต่อ เกาหลีใต้ ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเหงื่อตกเล็กน้อย กว่าจะโค่น เซอร์เบีย ลงได้ ฉะนั้นเกมคู่นี้หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทัพฝอยทองจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้
ติดตาม ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16ทีม , ผลบอล หรือต้องการร่วมสนุกไปกับการแข่งขันได้ที่นี่ @NBSCLUB และร่วมเชียร์ กับ บอลโลก 8 ทีมสุดท้ายเร็วๆนี้
